วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

บุคคลธรรมดากับเพย์สบายธุรกิจ


การสมัครเพื่อให้ได้ับัญชีเพย์สบายประเภทธุรกิจนั้น
ไม่ได้ซับซ้อนถึงขั้นว่าต้องจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นมาก่อนถึงจะสมัครได้
เพราะจริงๆ แล้วต้องการเพียงสำเนาทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของเว็บไซต์เท่านั้นครับ

เว็บไซต์ของบุคคลธรรมดาจึงสามารถที่จะถือบัญชีเพย์สบายประเภทธุรกิจได้
เพียงแค่สมัครเปิดบัญชีเพย์สบายแบบบุคคลไว้ก่อน แล้วทำการอัพเกรดบัญชีเป็นธุรกิจ
และหลังจากนั้นจะต้องส่ง..............
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้านที่ใช้จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
  • สำเนาทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
  • สำเนาหรือภาพถ่ายหน้าแรกของบัญชีธนาคารที่ผูกกับบัญชีเพย์สบาย
  • เอกสารหรือภาพถ่ายเอกสารที่แสดงความเป็นเจ้าของเว็บไซต์หรือโดเมนเนม (ในโครงการนี้ สามารถที่จะใช้การสั่งพิมพ์หน้าอีเมลตอบรับจากโครงการออกทางเครื่องพิมพ์ได้ครับ)
  • เอกสารเพิ่มเติมของเพย์สบาย จาก หน้าดาวน์โหลดของเพย์สบาย (ในการสมัครปรกติ แต่ละท่านอาจได้รับคำแนะนำเรื่องเอกสารที่ต่างกันได้บ้าง จากอีเมลที่ส่งมาจากเพย์สบายครับ)

ซึ่งถ้ามีความชัดเจนครบถ้วน บัญชีบุคคลของคุณก็จะได้รับการอนุมัติคำขออัพเกรดเป็นบัญชีธุรกิจ
ขั้นตอนทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่เิกิน 15 วันถึงหนึ่งเดือนเท่านั้นครับ

คำขอที่เกี่ยวกับโครงการธุรกิจไทยโกออนไลน์ จะเป็นเรื่องของ "Pay Now" โดยตรง
ซึ่งเพย์นาวจะเด่นในเรื่องของการที่ลูกค้าสามารถชำระที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส
ด้วยการรับ SMS จากการกรอกรายละเอียดหลังคลิกปุ่มชำระเงินในเ็วบไซต์
และลูกค้าสามารถนำ SMS ที่ได้รับ ไปทำการชำระด้วย-เงินสด-ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสทั่วประเทศได้เอง

----------

การถือทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบบุคคลธรรมดา
ก็ถือว่าเป็นพาณิชยกิจที่จัดตั้งถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ
...และไม่ใช่แต่เพียง "เพย์สบาย" เท่านั้นครับที่สมัครได้
แม้แต่ "เพย์พาล" (PayPal) เองก็ดำเนินการคล้ายๆ กันนี้เช่นกันครับ
จะทำให้เว็บบุคคลธรรมดาสามารถที่จะหักบัตรเครดิตได้ทั่วโลกในหลายสกุลเงินทีเดียว....น่าสนใจใช่มั้ยครับ :)





วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Webiz 06-B ดีไซน์(จบ)


ในตอนนี้จะเป็นตอนสุดท้ายแ้ล้วนะครับ
เกี่ยวกับการจัดการของระบบเว็บบิส
เพราะในส่วนของเมนูฝั่งขวานั้น จะไม่ใช่เครื่องมือตัดต่อแก้ไขครับ

หลังจากจบตอนสุดท้ายนี้ หลังจากนี้เราอาจจะมีการแนะนำเทคนิคต่างๆ
ที่น่าสนใจและมีประโยชน์นะครับ
เช่นการทำ "ไฮเปอร์ลิ๊งค์" หรือการใส่อักขระพิเศษลงไปในหน้าเว็บ
และข้อสังเกตต่างๆ ที่ช่วยให้ประกสบการณ์เยี่ยมชมเว็บไซต์ของลูกค้านั้นสมบูรณ์ขึ้น

เราไปชมตอนสุดท้ายนี้กันเลยครับ.....


เราจะไปกันที่ www.w3schools.com กันครับ
.
.
.
.

ติดตามกันต่อไปนะครับ
ว่าเราจะมีอะไรมานำเสนอกันอีก

Thank You.





วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

10 กุมภาพันธ์ 2555

คลิกบนภาพนี้เพื่อไปที่เพจครับ
ขณะนี้ Go Online Guide for Thai
ได้เปิดหน้าเพจที่ Google Plus แล้วครับ
เพื่อรองรับสมาชิกโครงการฯ ที่ใช้กูเกิ้ลพลัสอยู่แน่ๆ ไม่มากก็น้อยนั่นเอง
ให้ได้มีแหล่งพบปะที่ใกล้มือมากขึ้น โดยที่ในหน้าเพจที่ facebook ดั้งเดิมเราก็ไม่ได้ปิดตัวลงแต่ประการใดนะครับ ยังคงเปิดให้บริการอยู่เสมอ ท่านที่สนใจจึงสามารถเยี่ยมชมที่ใดก็ได้ตามความสะดวกครับ
                             
                                        

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Webiz 06-A ดีไซน์


ในบทที่แ้ล้วเป็นเรื่องของการเลือกรูปแบบการจัดหน้า (เลย์เอาท์)
และการเลือก "ธีมส์สำเร็จรูป" ที่ผู้ใช้งานแค่ต้องเปลี่ยนเอาโลโก้ของคุณเองอัพโหลดขึ้นไปอย่างเดียว

ในบทนี้จะเป็นเรื่องที่ยังเกี่ยวข้องกับบทก่อนหน้าอยู่ครับ
เพราะเป็นเรื่องของ "การสร้างธีมส์ของตัวเอง" ขึ้นมาใช้งาน
เพราะธีมส์ของเว็บไซต์ระบบเว็บบิสจะเป็นเรื่องของ -ภาพพื้นหลัง, แบบและสีของตัวอักษร-


  • สิ่งที่จำเป็นต้องทำที่สุดหลังจากได้รับเว็บไซต์มาแล้ว ก็คือการ "ใส่โลโก้ของคุณเองเข้าไป"
  • การเปลี่ยนโลโก้เท่านั้นที่จะลบโลโก้คำว่า "LOGO" ในระบบเว็บบิสออกได้ (แสดงผลแทน)
(คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)


เพราะฉะนั้นเราจะแนะนำวิธีเปลี่ยนโลโก้กันก่อนเลยครับ

A.เข้าไปที่ "ดีไซน์" 


B.หากพบว่าโลโก้เด้งกลับเป็นแบบเดิม
      ไม่ต้องตกใจครับ ปัญหาอาจมาจาก "แคช" (cache) ของเบราเซอร์เองได้ครับ
       คุณอาจลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
  • ออกจากระบบเว็บบิสและปิดเบราเซอร์
  • สั่งเคลียร์แคชในเบราเซอร์ แล้วลองเข้าเว็บไซต์ของคุณแบบปรกติ (ไม่ล็อกอินเข้าระบบ)
  • ถ้ายังพบว่าเป็นโลโก้ตั้งต้นอยู่เช่นเดิม ให้ปิดเบราเซอร์และเคลียร์แคชอีกครั้ง โดยที่คราวนี้ให้ตัดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตด้วย
  • แล้วเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตใหม่ เปิดเบราเซอร์ และเข้าหน้าเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งครั้งนี้ควรจะเป็นโลโก้ของคุณ
  • ถ้าท่านใดพบว่า "ไม่".... โกออนไลน์ไกด์แนะนำให้ท่านดำเนินตามวิธีข้อ A.เป็นจำนวน 2 ครั้ง -เสมอ- ในทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนโลโก้และภาพพื้นหลังครับ

กรณีใส่โลโก้ลักษณะ "แบนเนอร์" (Banner)
จากที่เราทดสอบทำแบนเนอร์สีพื้น กว้าง 1080 พิกเซลอัพโหลดเข้าไป
พบว่ามีการแสดงผลจริงในระบบเว็บบิสเพียง 960 พิกเซลเหนือเลย์เอาท์ครับ
...ก็คือจะกว้างประมาณหน้าเลย์เอาท์นั่นเอง
เพราะฉะนั้นท่านใดต้องการทำแบนเนอร์คาดทั้งหน้าเว็บ
ก็ให้ทำไฟล์ให้มีความกว้างไม่เกิน 960 พิกเซลนะครับ.


ต่อไปคือคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง "ภาพพื้นหลัง"
  • สีและองค์ประกอบในภาพ บริเวณที่ต้องถูกใช้เป็น "พื้นรองตัวอักษร" ....ไม่ควรมีลวดลายมากนัก และโทนสีไม่ควรต่างกันจนเกินไป เพราะตัวอักษรอาจถึงขั้น "อ่านไม่ออก" ได้ครับ
  • การสั่งเบลอภาพพื้นหลัง อาจช่วยให้ตัวอักษรอ่านง่ายขึ้นในบางกรณี
  • ถ้าต้องการสีเรียบๆ คุณสามารถเลือกสั่ง "ลบรูปพื้นหลัง" ได้ครับ
A.ที่ "ดีไซน์".....


3a - กำหนดค่าความกว้างพื้นหลัง ไม่จำกัด เพื่อรองรับการตั้งค่าจอภาพที่ค่อนข้างกว้าง
ของลูกค้าบางท่านได้ครับ .......หรือกำหนดเป็นค่าตายตัวที่ตัวเลือก 1024px หรือ 1280px
ซึ่งท่านอาจเตรียมภาพที่มีความกว้างเท่ากับค่าตายตัวนี้แล้วอัพโหลดขึ้นไปก็ได้ครับ

3b - ตำแหน่งของพื้นหลัง หากท่านใช้ภาพที่ใหญ่และตั้งค่าข้อ 3a ไว้ที่-ไม่จำกัด-
ตรงนี้จะเป็นการเลือกให้ระบบจัดดึงบริเวณใดๆ ของภาพ มาเป็นการแสดงผลครับ
ซึ่งมีประโยชน์ในการใช้เลือกตำแหน่ง "พื้นรองตัวอักษร" ที่เหมาะสมให้กับหน้าเว็บอีกทางหนึ่ง

3c - repeat พื้นหลัง หากท่านมีซึ่ง "หมวดสินค้า" อยู่เป็นจำนวนมาก
หรือบทความที่เขียนไว้ค่อนข้างยาวในบางหน้า.... ท่านอาจพบว่าด้านล่างของเว็บ
กลายเป็นพื้นที่เปล่าๆ เมื่อเข้าหน้าสินค้าหรือบทความดังกล่าว
.....เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ท่านอาจใส่ภาพพื้นหลังที่มีพื้นที่แนวตั้งสูงมากขึ้น แล้วสั่ง "no-repeat"
.....หรือสั่ง "repeat" ที่ส่วนนี้ เพื่อให้ระบบดึงภาพพื้นหลังเดียวมาต่อกันได้ครับ

3d - ทำให้พื้นหลังอยู่กับที่ เลือก "ใช่" จะทำให้ภาพพื้นหลังที่ใส่เข้าไปนั้นแสดงตำแหน่งเดียว
ไม่ขยับเลื่อนไปตามการเลื่อนหน้าเว็บขึ้น-ลงของผู้ชม (มีเพียงยกหน้าเลย์เอาท์ที่เลื่อนไป-มาได้)
....เลือก "ไม่ใช่" จะทำให้เวลาที่ผู้ชมเลื่อนหน้าเว็บขึ้น-ลง พื้นหลังจะมีการเปลี่ยนแปลงการมองเ็ห็น
ต่อผู้ชมไปตามระยะที่เลื่อนด้วย

3e - ไม่อนุญาตการคลิกขวา ติ๊กถูกในเช็คบ๊อกซ์ เพื่อป้องกันการคัดลอกบทความบนหน้าเว็บไซต์ได้ครับ


B.หากพบว่าภาพพื้นหลังยังไม่เปลี่ยน ให้ทำตามข้อ B.ด้านบนครับ




เรื่อง "ตัวอักษร"
ขออนุญาตต่ออีกตอนนะครับ






วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

8 กุมภาพันธ์ 2555

วันนี้เมื่อสักครู่ เราได้ทำการปรับปรุงข้อมูลในเนื้อหาของ.....

Webiz 03-A และ Webiz 03-B

เพื่อให้เป็นปัจจุบันที่สุดครับ
รวมทั้งจัดหน้าบางส่วนในบทความก่อนๆ ใหม่อีกนิดหน่อยเพื่อให้อ่านง่ายขึ้น

ระบบโดยรวมของโครงการธุรกิจไทยโกออนไลน์ขณะนี้
สามารถกล่าวได้ว่า "สมบูรณ์แบบแล้ว" สำหรับบางเว็บไซต์หรือบางลักษณะแห่งกิจการ
ด้วยระบบรับชำระเงินออนไลน์จากทางเพย์สบาย
ซึ่งมอบโซลูชั่นเกี่ยวกับ "เคาน์เตอร์เซอร์วิส" มาให้สมาชิกได้ใช้งาน

เราหวังว่าบทความจากโกออนไลน์ไกด์จะช่วยเหลือท่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ

ขอบคุณที่ให้ความสนใจติดตามครับ




วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Webiz 05 เลย์เอาท์และธีมส์


คุณสามารถเลือกเลย์เอาท์ (Layout, การจัดหน้า) และธีมส์ (Themes, ชุดรูปแบบเชิงกราฟิกโดยรวม) จากเทมเพลตสำเร็จรูปที่ทางเว็บบิสเตรียมเอาไว้ให้สมาชิกได้เริ่มต้นใช้งานอย่างง่ายดาย

ในส่วนของธีมส์สำเร็จฯ เหล่านี้สามารถที่จะแก้ไขเพิ่มเติมโดยผู้ใช้ได้ครับ (ติดตามในบทต่อไปครับ) และในระบบยังมี "ตัวอย่าง" ให้ได้รับชมเพื่อพิจารณาความเหมาะสมเข้ากับกิจการหรือธุรกิจของคุณ โดยเมื่อคุณพอใจกับธีมส์ชุดใดแล้ว ก็สามารถเลือกใช้ได้เลยหลังจากที่คุณสำรวจจากตัวอย่างจนพอใจแล้ว


  • เลือกเฉพาะเลย์เอาท์ - หากคุณต้องการสร้างธีมส์ด้วยตัวเอง ด้วยการเข้าไปกำหนดรายละเอียดต่างๆ ใน "ดีไซน์" (ตอนต่อไปครับ)
  • เลือกเฉพาะธีมส์ - หากคุณต้องการทำแค่การ "เปลี่ยนโลโก้" ของตัวเองเองใส่เข้าไปแทน และใช้ทุกอย่างเท่าที่แบบสำเร็จฯ แต่ละธีมส์ได้เตรียมไว้ให้



ข้อสังเกตที่ควรทราบ

  • การเลือก "เลย์เอาท์" จะเป็นตัวกำหนดทิศทางของแถวเมนู ว่าอยู่ในแนวตั้งหรือแนวนอน

  • เลย์เอาท์แบบแนวตั้ง - แถวเมนูจะซ้อนกันอยู่ด้านซ้าย (เท่านั้น) ซึ่งเป็นแนวคิดแบบมาตรฐาน
  • เลย์เอาท์แบบแนวตั้งของเว็บบิส บนส่วนหัวบนสุดของหน้าเว็บไซต์จะไม่มีการแสดง "ชื่อเว็บไซต์+คำบรรยาย" <<< คุณสามารถใช้กราฟิกโลโก้-ที่มีความกว้างมากๆ-ใส่เข้าไปได้ (ไฟล์ .png ขนาดไม่ควรกว้างเกิน 960 pixels เพราะระบบจะแสดงผลให้เพียงเท่านั้น, ใช้แบบพื้นหลังโปร่งใสได้) (ส่วนของภาพพื้นหลัง+โลโก้+แบบอักษร ติดตามในบทต่อไปครับ)
  • เพราะฉะนั้นจากการเลือกชมตัวอย่าง ท่านอาจเห็นว่าในส่วนหัวของบางตัวอย่าง เป็นแบนเนอร์ที่มีความกว้างคาดทั้งหน้า >>นั่นคือกราฟิกของภาพพื้นหลังครับ<<
  • หากท่านต้องการให้ส่วนหัวเป็นกราฟิกแบบแบนเนอร์คาดทั้งหน้า จึงควรต้องออกแบบและทำไฟล์ภาพพื้นหลังให้เรียบร้อยมาก่อนจะอัพโหลดเข้าไปครับ) การสั่งเบลอพื้นหลังจึงใช้ได้ดีกับภาพพื้นหลังธรรมดา ที่ไม่ได้ถูกเตรียมแบนเนอร์คาดทั้งหน้าไว้ในภาพครับ
  • ส่วนไฟล์ของโลโก้ ถ้ามีความกว้างไม่มากนัก (คือเป็นไฟล์ที่ ก. x ย. ไม่ใหญ่มาก) ระบบจะจับไปวาง "ชิดด้านซ้าย" เสมอ..ครับ ไม่ว่าจะเป็นเลย์เอาท์แนวตั้ง/แนวนอน

  • เลย์เอาท์แบบแนวนอน - แถวเมนูจะอยู่ใต้ส่วนหัว และจะมีการแสดงชื่อเว็บไซต์+คำบรรยาย ในตำแหน่ง "ชิดด้านขวา"
  • ในเลย์เอาท์แบบแนวนอน คุณจึงไม่สามารถใช้ไฟล์โลโก้ที่มีความกว้างมากนักได้ครับ เพราะที่ด้านชิดซ้ายจะเหลือพื้นที่เท่าที่ชื่อเว็บไซต์ด้านชิดขวาเหลือไว้ให้เท่านั้น (เพราะฉะนั้นถ้าชื่อเว็บไซต์คุณยาวมากไป นอกจากจะไม่มีที่ให้ใส่โลโก้แล้ว ชื่อยังจะโดดเป็น-สองบรรทัด-อีกด้วยครับ)
  • จากข้อก่อนหน้า..... ถ้าคุณใส่โลโก้ที่กว้างเกินกว่าที่ชื่อเว็บของคุณเหลือไว้ให้ โลโก้กับชื่อเว็บจะ-ซ้อนทับกัน-ครับ ...ถ้าหากชื่อเว็บหรือชื่อกิจการคุณค่อนข้างยาว โกออนไลน์ไกด์ขอแนะนำว่า -อย่าใส่โลโก้ในเลย์เอาท์แนวนอนนี้-ครับ (ถ้าต้องการใส่จริงๆ คุณอาจต้องเลือกเลย์เอาท์แนวตั้งแทนครับ)

  • การเลือกภาพพื้นหลังที่จะนำมาใช้ - ควรต้องคำนึงถึงบริเวณที่จะกลายมาเป็น "พื้นรองตัวอักษร"
  • บริเวณดังกล่าวจะมีผลอย่างมาก ในการที่ตัวอักษรจะอ่านได้ง่่ายหรือยากอย่างชัดเจน
  • บริเวณที่ต้องรองรับตัวอักษร จึงควรหลีกเลี่ยงภาพที่มีลวดลายมากๆ หรือต่างโทนสีกันเกินไป เพราะสีของตัวอักษรที่เราจะตั้งค่ากันต่อไปนั้น จะเป็นสีเดียวกันทั้งหน้าเว็บนั้นเอง (อักษรทั่วไป)
  • ภาพพื้นหลังในบางลักษณะ อาจใช้การสั่งเบลอพื้นหลัง (ในบทต่อไป) เพื่อช่วยให้ตัวอักษรบนเว็บอ่านได้ง่ายขึ้น

ต่อไปนี้คือ "ภาพตัวอย่างธีมส์" ทั้งแนวตั้งและแนวนอนที่เว็บบิสได้เตรียมเอาไว้ให้ชมครับ
(คลิกบนแต่ละภาพเพื่อขยาย)

Default
 Restaurant 1 
 Restaurant 2
 Hotel 1
 Hotel 2
 White
 Spa-Massage 1
 Spa-Massage 2
 Fashion-Clean
 และ Fashion-Vintage


ในตอนต่อไป จะเป็นเรื่องของ "ดีไซน์"
ซึ่งมีในเรื่องของ ภาพพื้นหลัง โลโก้ และแบบอักษรครับ



วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Webiz 04 จัดการหน้า


ในส่วนของการจัดการหน้า จะมีอยู่ 2 tab หน้าต่างเริ่มต้น คือ

  • เพิ่มหน้า
  • เพิ่มหมวดสินค้า
การเพิ่มหน้า จะเป็นการสร้าง "หน้าเดี่ยว" เพิ่มขึ้นมาใหม่ครั้งละ 1 หน้า
การเพิ่มหมวดสินค้า จะเป็นการสั่งให้หน้าเดี่ยวเริ่มต้นหน้าหนึ่ง ที่มีชื่อในตอนแรกว่า "สินค้า" >>> แตก-หน้าย่อย-เพิ่มขึ้นเป็นโครงสร้างภายใน
....เราจะมาดูไปทีละส่วนครับ

เมื่อคลิกที่แถบเครื่องมือการทำงานด้านบน จะปรากฏเป็นหน้าต่างลิ้นชักป็อปอัพออกมา


- หน้าที่มีคำสั่ง "ลบ" ข้างท้าย คือหน้าเดี่ยวใหม่ที่เราได้จากการคลิกปุ่ม "เพิ่มหน้า"
(ยกเว้นหน้าบริการไปรษณีย์ไทยที่ต้องเปิดการทำงานใน-การตั้งค่าทั่วไป-
- หน้าที่มีคำสั่ง "ซ่อน" ข้างท้าย คือหน้าหลักของระบบที่เราไม่สามารถลบออกได้
ซึ่งจะมีอยู่ 2 หน้าด้วยกัน คือ หน้าสินค้า และหน้าข้อมูลการติดต่อ


เมื่อดำเนินการตามภาพด้านบน
ภาพด้านล่างนี้คือลักษณะที่ปรากฏครับ (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)



ต่อไปเป็นวิธีการจัดการหน้า "สินค้า" <<< ซึ่งเป็นหน้าเดียวที่จะมี "โครงสร้าง 3 ชั้น" คือ
> หน้าสินค้า
>> หมวดสินค้า
>>> ตัวสินค้าต่างๆ ที่สามารถเพิ่มได้ไม่จำกัดจำนวนหน้าเดี่ยวย่อยๆ ในชั้นนี้
แต่ลักษณะการปรากฏบนเว็บไซต์จะแสดงให้เห็นลิ๊งค์ของสองชั้นแรกเท่านั้นครับ
ข้อสังเกตก็คือ...หน้าใดๆ ที่อยู่ชั้นบนสุดจะมีคำสั่งต่อท้ายว่า-ลบ-และ-ซ่อน-
จากภาพต่อไปนี้จึงสังเกตได้เช่นกันว่า "หมวดสินค้า" จะไม่มีคำสั่งต่อท้ายใดๆ อยู่


จากภาพบน จะเห็นได้ว่าภายใต้หน้าสินค้าที่มีคำสั่ง-ซ่อน-ต่อท้าย
ในภาพตัวอย่างจะมีหลายหน้าใต้นั้นลงมาที่ไม่มีคำสั่งต่อท้ายใดๆ เลย
ซึ่งหน้าเหล่านี้คือ "หมวดสินค้า" นั่นเองครับ (ชั้นที่ 2)

ต่อไปจะเ็ป็นการสร้าง "หน้าสินค้า" (ของตัวสินค้าจริงๆ) (ชั้นที่ 3)


และ


จากภาพบน จะเห็นได้ว่าหน้าตัวสินค้านั้นมีคำสั่ง-ลบ-ต่อท้าย
ท่านจึงสามารถลบสินค้าที่หมดจากสต็อคแล้ว ออกไปจากหมวดได้
และเมื่อต้องการเพิ่มสินค้าใหม่ๆ ก็สามารถดำเนินตามขั้นตอนนี้ได้เรื่อยๆ ครับ

ต่อไปคือการเข้าแก้ไขข้อมูลสินค้าที่เพิ่มเข้าไป (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

และ


การใส่รูป
(ที่ใดที่มีโมดูลสำหรับใส่รูป จะทำแบบเดียวกันทั้งหมดครับ)

สามารถเลือกได้ทั้งภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอบนยูทิวบ์ของท่าน (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

หากเป็นภาพนิ่งจะเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกพื้นที่บนภาพเพื่อพรีวิวในกรอบ


ซึ่งกรอบของการครอบตัด (Crop) จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสเท่านั้น จึงเป็นการเลื่อนตำแหน่งบนภาพที่ต้องการ
เพราะฉะนั้นหากท่านต้องการให้พรีวิวภาพทั้งภาพ ท่านควรทำให้ไฟล์ต้นฉบับเป็นรูปสีเหลี่ยมจัตุรัสมาก่อนครับ
(ขอข้ามสู่การแสดงผลโดยรวมเลยนะครับ ซึ่งถ้าเป็นวิดีโอ ตัวภาพพรีวิวจะมี "ลูกศร" ลอยอยู่กลางภาพครับ)

เมื่อเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว
จะได้หน้าหมวดสินค้าประมาณนี้ครับ (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)

หน้าหมวดสินค้า (ชั้นที่ 2)
 หน้าตัวสินค้า (ชั้นที่3) เมื่อคลิกจากพรีวิวหมวดด้านบน

  • สำหรับการลบรูปก็เพียงแต่คลิกบนโมดูลที่ต้องการ แล้วเลือก "ไม่ใช้รูปภาพ" เสร็จแล้วกดปุ่มบันทึก...และบันทึก
  • การลบหน้าชั้นบนสุดจะมีเพียงหน้าสินค้าและการติดต่อที่ไม่สามารถลบได้ (แก้ไขได้เท่านั้น) ส่วนหน้าบริการไปรษณีย์ไทย การสั่งลบจะเป็นการ "ลบข้อมูลที่แก้ไขบนหน้านั้นไว้ทั้งหมด" กลับสู่ค่าเริ่มต้น หากต้องการให้หน้านี้หายไป เข้าไปนำเครื่องหมายถูกออกในหน้า "การตั้งค่าทั่วไป" ครับ
  • หากต้องการลบหน้า "หมวดสินค้า" (ชั้นที่ 2) คุณต้องทยอยลบหน้าสินค้าในชั้นที่ 3 ของหมวดนั้นๆ ออกให้หมดก่อนครับ
  • รูปถ่ายสินค้า (ภาพนิ่ง) แนะนำเป็น .jpg ขนาดเท่าใดก็ได้ แต่รูปร่างควรเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส (หากท่านต้องการให้ภาพสินค้า-ทั้งภาพ-ไม่ถูกตัดทอน ในกรณีสี่เหลี่ยมผืนผ้า, เป็นการแสดงผลก่อนการคลิกเปิดกรอบใหญ่โดยผู้เยี่ยมชมเท่านั้นครับ หากเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็จะแสดงเต็มเมื่อมีการคลิกทั้งสิ้น)
  • ระบบปฏิบัติการเว็บบิส ผู้ใช้สามารถแก้ไขข้อมูลเผยแพร่ส่วนที่เป็นตัวอักษรได้โดยพิมพ์ลงไปบนตำแหน่งต่างๆ โดยตรงในขณะจัดการเว็บไซต์
  • การเลื่อนตำแหน่งลิ๊งค์หน้าเว็บชั้นบนสุด สามารถทำได้โดย "คลิกค้าง-ลาก-ปล่อย" สลับตำแหน่งได้โดยอิสระครับ (เราไม่ได้สาธิตในส่วนนี้เอาไว้นะครับ)
  • การแก้ไขใดๆ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วให้คลิก "บันทึก" ทุกครั้ง!!!!



วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Webiz 03-B ระบบชำระเงินออนไลน์


จากตอนที่แล้ว...
ทางเราในฐานะที่ทางต้นสังกัดถือบัญชีเพย์สบายประเภทธุรกิจอยู่
หลังจากเผยแพร่บทความไป
เราก็ได้ดำเนินการทดสอบดูในทันที ดังนี้ครับ...

เมื่อคลิกที่แถบเมนู "ระบบชำระเงินออนไลน์".... จะมี 3 Tabหน้าต่างด้วยกัน ดังต่อไปนี้

1. "ตั้งค่า"

จะเห็นได้ว่ามีช่อง "บัญชี PaySbuy อีเมล" อยู่ 
แต่ไม่สามารถคลิกเพื่อกรอกข้อความใดๆ ได้นะครับ!!!

เพราะฉะนั้น สมาชิกเดิมของเพย์สบายอาจไม่สามารถใช้ได้ในทันทีครับ
อีกแง่มุมหนึ่งก็คือ เพราะบัญชีแบบธุรกิจนั้นจะอ้างอิงกับโดเมนเนมใดโดเมนเนมหนึ่งโดยเฉพาะอยู่ก่อน
ซึ่งในส่วนนี้จะอ้างอิงตามเอกสารประกอบการสมัครบัญชีธุรกิจตามปรกตินั่นเอง
ต้องตรวจสอบกับทางเพย์สบายอีกครั้งหนึ่งครับ
ว่าจะพิจารณาจากการแจ้งเพิ่มเติมทางทะเบียนพาณิชย์ฯ หรือไม่..อย่างไร
เพราะท่านอาจต้องยื่นคำร้องขอแก้ไขทางทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (เพิ่มเว็บไซต์)
และส่งสำเนาฉบับใหม่นั้นให้กับทางเพย์สบายครับ

2. "ราคา" ส่วนนี้จะทำการดึงโครงสร้างของหน้าสินค้ามาทั้งหมดครับ
       ซึ่งถ้าเป็นสินค้าทั่วไป และมีสต็อคอยู่ ก็สามารถเลือก "มีสินค้า"
       และกำหนดราคาต่อชิ้นลงไปได้เลยครับ (การสร้างหน้าสินค้าต่างๆ ติดตามในบทต่อไปครับ)


3. "รายการชำระเงิน"


ซึ่งเป็นระบบบัญชีอย่างย่อ รายละเอียดที่ทำบันทึกก็ตามที่ปรากฏในภาพครับ



ต่อไปจะแสดงขั้นตอนการตั้งค่าและรายละเอียดต่างๆ 
เพื่อให้ปุ่มชำระเงินปรากฏในเว็บไซต์ครับ


A.เปิดระบบและเลือกปุ่ม ....ตัวเลือกการกรอกข้อมูลที่อยู่ของลูกค้านั้น เหมาะสำหรับ
      เว็บไซต์ที่จำหน่ายสินค้าแบบ Physical Products (ฟิสิคอลโปรดัคส์, สินค้าที่จับต้องได้)
      เนื่องจากเป็นพัสดุภัณฑ์ หรือต้องการการนำส่งทางไปรษณีย์
      ส่วนเว็บไซต์ที่จำหน่ายสินค้าแบบ Digital Contents (ดิจิตอลคอนเท้นท์, ไฟล์คอมพิวเตอร์)
      อาจไม่จำเป็นกับตัวเลือกนี้ครับ

ไปที่แท็บ "ตั้งค่า".......


B.และที่แท็บ "ราคา" ทำเสร็จคลิกปุ่มบันทึกด้วยนะครับ


เป็นอันเสร็จสิ้นครับ. แค่ไม่กี่คลิกเท่านั้นเอง.......

และเราจะลองไปดูการแสดงผลกันครับ....... (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)


และในหน้าสินค้า........................


และเมื่อลูกค้าคลิกปุ่ม "ซื้อ".......................ก็จะมีหน้าต่างป็อปอัพขึ้นมา


จากภาพล่าสุดจะเห็นได้ว่า ในช่องอีเมลนั้นไม่มีดอกจันสีแดงกำกับ ซึ่งหมายความว่า.......

  • ลูกค้ามีแค่โทรศัพท์มือถือก็สามารถซื้อสินค้าได้นั่นเอง
  • ลูกค้าไม่ต้องเป็นสมาชิกเพย์สบายก็ได้
  • ลูกค้าเพียงแค่รอรับ SMS และนำไปชำระเงินสดได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสใกล้ๆ  บ้านเท่านั้นครับ (ภายใน 7 วัน)

และเมื่อลูกค้าได้ทำการคลิกปุ่ม-PAY Now-เป็นที่เรียบร้อย
การแสดงทางบัญชีใน "รายการชำระเงิน" ......จะเป็นลักษณะนี้ครับ.....

ซึ่งเมื่อลูกค้าได้ทำการชำระเงินที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในส่วน "สถานะ" ก็จะเปลี่ยนเป็น "ชำระแล้ว" ครับ.

ข้อสังเกต

  • ปุ่มและระบบสั่งซื้อยังไม่ใช่ตะกร้าแบบที่จะสะสมสินค้าจากทุกรายการไปจ่ายรวมกันได้
  • เป็นระบบ "ตะกร้ารวมจำนวนของสินค้ารายการเดียว" ..ซึ่งผู้ซื้อต้องจ่ายแยกแต่ละรายการเอง (และค่าธรรมเนียมของลูกค้าหน้าเคาน์เตอร์เซอร์วิสก็จะแยกเพิ่มตามจำนวนรายการไปด้วย)




เป็นอันว่าบทความแนะนำการเซ็ทระบบชำระเงินออนไลน์ก็เรียบร้อยลงได้แล้วนะครับ
โกออนไลน์ไกด์หวังว่า ระบบจากเพย์สบายที่สมาชิกโครงการได้รับมานี้
จะช่วยส่งเสริมการขายได้อย่างน่าสนใจนะครับ

แต่อย่าลืมว่าเว็บไซต์ของท่านต้องจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ก่อนนะครับ
ถึงจะใช้ฟีเจอร์นี้ได้

เราจะมีบทความแนะนำการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้ศึกษากันในเร็วๆ นี้ครับ
แล้วท่านจะพบว่ามัน "ไม่ยากเลย"